: ข่าวด่วน ทันเหตุการณ์ เศรษฐกิจ การลงทุน หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ไอที-เทคโนฯ รถยนต์ ท่องเที่ยว ต่างประเทศ รวดเร็วสดใหม่ทุกวัน 
SCGP ลงทุน 146.20 ลบ.เข้าซื้อหุ้นในวีอีเอ็ม (ไทยแลนด์) ผู้ผลิตชิ้นส่วนสมรรถนะสูงจากการฉีดขึ้นรูปพอลิเมอร์ ต่อยอดธุรกิจ Healthcare Packagingand Supplies เสริมเครือข่ายลูกค้าในต่างประเทศที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น เริ่มแสดงผลประกอบการของ VEM-TH ในงบการเงินรวมตั้งแต่ก.ค.67
นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) SCGP แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า SCGP Solutions (Singapore) Pte. Ltd.(SCGPSS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCGP ถือหุ้นทั้งหมด ได้เข้าซื้อหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 90 ในบริษัทวีอีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด (หรือ VEM-TH) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนสมรรถนะสูงจากการฉีดขึ้นรูปพอลิเมอร์ โดยเงินลงทุนสำหรับการเข้าถือหุ้นร้อยละ 90 จะรวมเป็นเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 4.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 146.2 ล้านบาท โดย SCGP จะเริ่มแสดงผลประกอบการของ VEM-TH ในงบการเงินรวมตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567
โครงการควบรวมกิจการ (Merger and Partnership: M&P) ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การขยายและสร้างการเติบโตธุรกิจบรรจุภัณฑ์วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์สำหรับใช้ในห้องปฏิบัติการของ SCGP ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มสังคมสูงอายุความสนใจด้านสุขภาพที่มากขึ้นของประชากรโลก
โดย VEM-TH มีฐานการผลิตอยู่ที่จังหวัดระยอง ประเทศไทย และมีฐานลูกค้าที่เติบโตอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมการแพทย์ การบิน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ ซึ่งครอบคลุมตลาดหลากหลายประเทศ เช่น ไทย สหรัฐอเมริกา จีน เป็นต้น
การ M&P ข้างต้นจะเสริมศักยภาพให้ SCGP ด้วยมาตรฐานของ VEM-TH ในด้านระบบบริหารงานคุณภาพสำหรับเครื่องมือแพทย์ (ISO 13485) และห้องปลอดเชื้อที่ผ่านมาตรฐานการรับรองความสะอาดของอากาศ (Cleanroom) Class 8 และ Class 7 ผ่านกระบวนการที่ละเอียดอ่อนและแม่นยำในทุกขั้นตอน รวมถึงการพัฒนาแบบพิมพ์ซึ่งจะต่อยอดให้SCGP สามารถผลิตสินค้ากลุ่มนี้ในประเทศไทย เพิ่มเติมจากการผลิต ของ Deltalab S.L. และ Bicappa Lab S.r.L ในประเทศสเปนและอิตาลี ตามลำดับ เพื่อรองรับการเติบโตของความต้องการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ในอนาคต
ทั้งนี้ การผนึกกำลังทางธุรกิจกับผู้ถือหุ้นเดิมของ VEM-TH ในด้านการผลิต การขาย และการตลาดจะช่วยเสริมให้ SCGP มีเครือข่ายลูกค้าในต่างประเทศที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน VEM-TH มีสายการผลิตสินค้าทั้งสิ้น 30 สายการผลิต ซึ่งสามารถผลิตสินค้าได้กว่า 59 ล้านชิ้นต่อปี โดย ณ สิ้นปี 2566 VEM-TH มีรายได้ประมาณ 302 ล้านบาท และมีสินทรัพย์อยู่ที่ 455 ล้านบาท
